แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดของมนุษย์คือ “เวลา” แต่ในขณะเดียวกันหลายคนก็ใช้เวลาอย่างสิ้นเปลืองไปกับกิจกรรมที่ไร้ประโยชน์มากมาย บางอย่างเราก็เลี่ยงได้ แต่หลายอย่างกลับกลายเป็นเรื่องที่ต้องฝืนทน 

4-(4).jpg

หากยกตัวอย่างในมหานครอย่างกรุงเทพฯ แล้ว เรื่องที่เราต่างรู้ดีว่าเลี่ยงไม่ได้คือสภาพการจราจร โดยเฉพาะอย่างบริเวณพื้นที่ใจกลางเมือง

เรื่องน่าเจ็บปวดสำหรับเด็กๆ ชาวกรุงคือ หากพวกเขาได้เรียนในสถานศึกษาชั้นนำซึ่งกระจุกอยู่ในพื้นที่เจริญนคร สาทร สีลม และบริเวณใกล้เคียง เช่น โรงเรียนเซนโยเซฟ คอนแวนต์, อัสสัมชันบางรัก หรือกรุงเทพคริสเตียน เด็กๆ เหล่านี้จำเป็นต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด เพื่อมารับประทานเช้าบนรถ และได้หลับต่ออีกหนึ่งงีบใหญ่ๆ ก่อนจะถึงโรงเรียน

1066.jpg

สถิติบ่งชี้ว่า เด็กๆ เหล่านี้ต้องใช้เวลาเฉลี่ย 2 ชั่วโมงสำหรับการเดินทางจากบ้านไปโรงเรียน และอีก 2 ชั่วโมงในขากลับ หากพวกเขาต้องเรียนในโรงเรียนแห่งเดียว หรือใกล้ๆ กันเป็นเวลา 15 ปี ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 นั่นหมายถึง พวกเขาต้องใช้เวลาปีละ 240 ชั่วโมงบนท้องถนน

หรือ 14,000 ชั่วโมงในระยะเวลา 15 ปี… เพื่อให้เห็นภาพชัดกว่านั้น เรากำลังบอกว่า พวกเขาเสียเวลาอย่างเปล่าประโยชน์บบนท้องถนนไปถึง 2 ปีเต็มๆ

“จอย” พิมลรัตน์ เป็นหนึ่งในเหยื่อของการจราจรที่โหดร้ายของกรุงเทพฯ ในฐานะศิษย์เก่าของโรงเรียนเซนโยเซฟ คอนแวนต์ เล่าถึงประสบการณ์การเติบโตบนรถที่คุณพ่อต้องส่งเธอเดินทางจากบ้านในย่านสุขุมวิทตอนต้น เธอต้องตื่นตีห้าครึ่งทุกวัน ก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวและออกจากบ้านไม่เกิน 6 โมงเช้า เพื่อไปขึ้นรถรับส่งของโรงเรียน หากวันไหนผิดเวลาจากนี้ เธอต้องให้คนที่บ้านมาส่งก่อน 6:43 เพื่อให้ทันเข้าแถวตอน 7:45 และทุกเย็นเมื่อเลิกเรียน เธอก็ใช้เวลาอีก 2 ชั่วโมงเพื่อกลับบ้าน

เช่นเดียวกันกับ “โจ” ฉัตรชัย ศิษย์เก่าโรงเรียนชั้นนำอย่างกรุงเทพคริสเตียน เขาเองต้องเดินทางจากถนนพระรามสอง ต้องตื่นนอนตั้งแต่ตีห้า และเดินทางเข้าเส้นสาธรผ่านทางด่วน เพื่อให้เข้าเรียนทัน และมาสายเป็นประจำเพราะใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง ทั้งเช้าและเย็น

ยังมีเด็กอีกมากมายที่ต้องทนกับปัญหาการจราจร พวกเขาต้องประสบปัญหาการพักผ่อนไม่เพียงพอ ปัญหาการไปโรงเรียนสาย ปัญหาการทานอาหารอย่างเร่งรีบ ปัญหาสุขภาพจากความเครียด และที่สำคัญ พวกเขาต้องเสียเวลาในชีวิตไปอย่างเปล่าประโยชน์

น่าเสียดายที่จอยและโจไม่อาจซื้อเวลาสมัยเด็กของพวกเขาคืนไปได้…แต่สำหรับคุณและลูกที่คุณรัก เวลานั้นสามารถซื้อได้

จะดีแค่ไหนหากคุณมีที่พักใกล้ๆ กับโรงเรียนชั้นนำเพื่อให้ลูกๆ ได้ย่นระยะเวลาการเดินทางจากชั่วโมงเป็นหลักนาที หากคุณสามารถพาลูกกลับถึงที่พักที่ห่างออกไปแค่ 4-7 กิโลเมตร นั่นหมายถึง เด็กๆ จะได้มีเวลาเล่น เรียนรู้ พักผ่อน และพัฒนาทักษะด้านอื่นมากขึ้น

หากคุณมีลูกที่เรียนในสภาบันชั้นนำย่านเจริญนคร สาทร หรือสีลม วันนี้เวลาของคุณซื้อได้ด้วยที่พักอาศัยที่เหมาะสม สะดวกสบายครบครัน มีพื้นที่สำหรับสันทนาการ กิจกรรมต่างๆ รวมถึงที่จอดรถอย่างเพียงพอ

ที่นี่…Altitude Symphony เจริญกรุง

Screen-Shot-2562-08-29-at-16.02.41.png

ลักซ์ชัวรีคอนโดมิเนียมแบบ High Rise สูง 22 ชั้น บนวิวโค้งน้ำที่สวยที่สุดบนถนนเจริญกรุง สุดยอดทำเลศักยภาพ ซอยจันทน์ 44 ในย่านเจริญกรุง เชื่อมต่อกับย่านศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญอย่างสาทร สีลม “Real CBD” ของกรุงเทพฯ กับความสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ High-End ให้ผู้อยู่อาศัยได้ยกระดับชีวิต ห้อมล้อมด้วยสังคมคุณภาพอย่างแท้จริง

อัลติจูด ซิมโฟนี ใกล้ถนนเส้นหลักทั้งถนนเจริญกรุง, ถนนเจริญราษฎร์, ถนนพระราม 3 และถนนสาทร ใกล้ทางพิเศษศรีรัช ด่านถนนจันทน์เพียง 2 นาที มีเส้นทางลัดให้ได้ใช้หลายทาง รวมถึงเป็นโครงการที่ใกล้กับรถไฟฟ้าถึง 2 สถานี นั่นก็คือรถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์ และ BTS สะพานตากสิน ที่มีท่าเรือสาทร-ตากสิน และท่าเรือข้ามฟากตากสินให้เป็นอีกทางเลือกในการเดินทาง 

Screen-Shot-2562-09-03-at-13.50.22.png

อีก “ความใกล้” ที่เป็นจุดเด่นของ อัลติจูด ซิมโฟนี คือใกล้ Asiatique The Riverfront แหล่งท่องเที่ยวบนถนนเจริญกรุง และ Four Seasons Hotel Bangkok โรงแรมระดับ 5 ดาว ในระยะที่สามารถเดินเท้าได้สบาย ครบครันทั้งสตรีทฟู้ด, คาเฟ่, ร้านอาหารหลายระดับ รวมทั้งศูนย์การค้าและคอมมูนิตี้มอลล์รอบข้าง การันตี “ความอุดมสมบูรณ์” ได้เป็นอย่างดี

school.jpg

ไฮไลท์สำคัญที่จะสร้างความสุขให้กับคนที่เลือก อัลติจูด ซิมโฟนี เป็นบ้านในเมืองก็คือทำเลอันยอดเยี่ยม ใกล้กับโรงเรียนชั้นนำมากมาย อาทิ Shrewsbury International School, โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์, โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ที่นี่จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางมาส่งลูกเรียนในสถานศึกษาดังกล่าว

ตัวโครงการโดดเด่นด้วยการออกแบบสไตล์ Colonial Contemporary Design ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้าน วัสดุตกแต่งใช้เทียบเท่า Luxury Brand เกรดพรีเมียมทั้งหมด สะท้อนถึงรสนิยมที่มีระดับของผู้อยู่อาศัย หมดห่วงเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนห้องจำกัดเพียง 99 ยูนิต หรือ 7 ยูนิตต่อชั้นเท่านั้นพื้นที่สวนกลางและฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ เริ่มจากชั้นล็อบบี้ มีการจัดการพื้นที่เทียบเท่ามาตรฐานโรงแรงหรู ที่จอดรถ 100% แบ่งเป็น Auto Parking System ถึง 83% พร้อมช่องจอดชาร์จสำหรับรถพลังงานไฟฟ้า

05_loungearea.jpg
06_kidsroom.jpg

ที่ชั้น 2 เป็นส่วนของห้องประชุม เลานจ์ และ Kids Playroom ขณะที่ชั้น 18 น่าจะเป็นมุมโปรดของหลายๆ คน เพราะมีสระ 360 องศา ขนาด 80 เมตร สปา และ Bubble Show ส่วนชั้น 21 มีห้องฟิตเนสวิวเมืองแบบพาโนรามา บนสุดคือชั้นดาดฟ้ากับสวนสวยและพื้นที่สำหรับจัดงานเลี้ยงหลากหลายรูปแบบ

Screen-Shot-2562-08-29-at-16.35.45.png

ด้านการบริการนั้นเทียบเท่าโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว บริการ Valet service และ Concierge service อำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านอย่างเต็มที่ พร้อมกับบริการช่วยเหลือต่างๆ ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และมีรถรับส่งจากโครงการไปถึงสถานีรถไฟฟ้าและโรงเรียนรอบๆ อีกด้วย

หากเวลาและความสุขสามารถซื้อได้…แล้วคุณล่ะรออะไรอยู่

โครงการ อัลติจูด ซิมโฟนี เจริญกรุง 2 ห้องนอนเริ่มต้น 9.9 ล้าน*

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนรับข้อเสนอพิเศษสุดได้ที่

CTA-Symphony.jpg




แชร์
เผยแพร่เมื่อ 05 กันยายน 2562
ไปด้านบน